มิติใหม่แห่งการจัดการด้านสุขอนามัยด้วย “น้ำไฮโปคลอรัส”
เทคโนโลยีการผลิตสารฆ่าเชื้อของ ClohSei® และ AquaRiserTM สร้างสารฆ่าเชื้อที่เรียกว่า “กรดไฮโปคลอรัส” ขึ้นมา ซึ่งเป็นสารอ็อกซิแดนท์ธรรมชาติที่ทรงพลังสร้างขึ้นโดยเม็ดเลือดขาวในร่างกายมนุษย์เพื่อกำจัดเชื้อโรคต่างๆ เทคโนโลยีของบริษัทเราใช้วัตถุดิบเกรดที่ใช้กับอาหารทั้งหมดต่างกับเทคโนโลยีอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน โดยหลักการจะทำการป้อนพลังงานไฟฟ้าเข้าไปในน้ำเกลือที่มีความเข้มข้นส่วนเหมาะสมเพื่อสร้าง “น้ำอิเล็กโทรไลต์” ขึ้นมาจากนั้นจึงนำไปเติมสารปรับกรดเพื่อปรับสภาพ pH เพิ่มระดับการคงอยู่ของกรดไฮโปคลอรัสให้สูงขึ้น
น้ำไฮโปคลอรัสแบบกรดอ่อน
แม้ว่าจะมีเทคโนโลยีหลากหลายในการสร้างกรดไฮโปคลอรัสขึ้นมา เทคโนโลยีการอิเล็กโทรลิซิสน้ำเกลือเองก็สร้างสารละลายที่มีค่า pH อยู่ระหว่าง 8-9 เท่านั้น
อุปกรณ์แบบพกพาจำนวนมากอ้างว่าสามารถสร้างกรดไฮโปคลอรัสได้โดยเติมเพียงเกลือและน้ำเข้าไปในกระบอก แต่สารที่ได้ออกมาจริงๆ เมื่อทดสอบแล้วมีค่า pH อยู่ระหว่าง 8-9 ซึ่งในระดับนี้จะมีกรดไฮโปคลอรัสคงตัวเพียง 15% เท่านั้น ที่ค่า pH ระดับนี้สารประกอบคลอรีนอิสระส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของ “ไอโปคลอไรท์ไอออน” ซึ่งมีประสิทธิผลในการฆ่าเชื้อที่ต่ำกว่ากรดไฮโปคลอรัสมาก โดยทั่วไปจะเรียกสารละลายประเภทนี้ว่า “น้ำอิเล็กโทรไลต์ (Electrolyzed Water)“.
แต่เทคโนโลยีการอิเล็กโทรลิซิสน้ำเกลือของบริษัทเรา (ClohSei® / AquaRiserTM) มีเทคนิคการปรับสภาพความเป็นกรดด่างทำให้ค่า pH ของสารที่ได้อยู่ในช่วง 4-7 (โดยปกติจะอยู่ในช่วง 5-6.5) ซึ่งเป็นย่านที่เป็นกรดอ่อน ในช่วง pH นี้ สารที่ทำหน้าที่ส่วนใหญ่คือ “กรดไฮโปคลอรัส” และมีอัตราการคงอยู่มากกว่า 80% ซึ่งมากกว่าน้ำอิเล็กโทรไลต์ทั่วไปถึง 6 เท่า หรือมากกว่า (ข้อมูลสนับสนุนจาก กระทรวงเกษตร ประเทศสหรัฐอเมริกา – USDA) บริษัทของเราจึงเรียกว่าเป็น “น้ำไฮโปคลอรัสแบบกรดอ่อน”
เปรียบเทียบเทคโนโลยีการสร้างน้ำไฮโปคลอรัสแบบต่างๆ
ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น มีเทคโนโลยีหลากหลายในการสร้างกรดไฮโปคลอรัส ซึ่งแม้ว่ากรดไฮโปคลอรัสจะมีความปลอดภัยสูงและมีประสิทธิผลในการกำจัดเชื้อโรคต่างๆ โดยไม่ทิ้งสารพิษตกค้างแต่ก็จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีที่สร้างสารที่มีอัตราการคงตัวของกรดไฮโปคลอรัสในระดับสูง ในบางเทคโนโลยีที่สร้างกรดไฮโปคลอรัสก็มีการสร้างสารไม่พึงประสงค์ตามมาด้วยเช่นกัน หรือบางเทคโนโลยีก็ต้องใช้วัตถุดิบที่ไม่ปลอดภัย รวมถึงบางเทคโนโลยีก็สร้างก๊าซคลอรีนให้เกิดขึ้นอีกด้วย และถึงแม้ว่าสารสุดท้ายที่ได้จะมีความปลอดภัย แต่ก็มีความเสี่ยงในการจัดการวัตถุดิบ หรือต้องหาวิธีกำจัดสารไม่พึงประสงค์ที่ตามมาด้วย
เทคโนโลยีของบริษัทเราแตกต่างจากเทคโนโลยีทั่วไปตรงที่ไม่มีการใช้วัตถุดิบอันตรายจึงปลอดภัยและไม่มีความเสี่ยงในการจัดการวัตถุดิบ เราจึงสามารถนำเสนอเทคโนโลยีการสร้างน้ำไฮโปคลอรัส (กรดไฮโปคลอรัส) ที่ปราศจากความเสี่ยงในการจัดการวัตถุดิบ และไม่สร้างสารไม่พึงประสงค์ ได้สารฆ่าเชื้อที่ไม่ทิ้งสารพิษตกค้าง และไม่ต้องบำบัดหลังการใช้งานอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ เรายังมีเทคโนโลยีที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวในการฟื้นฟูกรดไฮโปคลอรัสเข้ามาด้วย โดยทั่วไปกรดไฮโปคลอรัสจะสลายตัวไปอย่างรวดเร็วเมื่อทิ้งไว้ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน เทคโนโลยีของเราจะตรวจจับการสูญเสียความเข้มข้นของคลอรีนอิสระของน้ำอิเล็กโทรไลต์ที่ผลิตออกมา ถ้าหากความเข้มข้นของคลอรีนอิสระ (สารแอคทีฟที่ทำหน้าที่กำจัดเชื้อโรค) ต่ำกว่าระดับที่ตั้งไว้ เครื่อง Clohsei® จะดำเนินกระบวนย้อนการไหลเพื่อฟื้นระดับคลอรีนอิสระกลับข้นมาใหม่ ด้วยเทคโนโลยีการฟื้นฟูคลอรีนอิสระแบบนี้ ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องเทสารละลายอิเล็กโทรไลต์ที่ปล่อยไว้ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานานทิ้งอีกต่อไป ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่าย และลดการใช้วัตถุดิบสิ้นเปลืองเกินจำเป็น ส่งผลดีในแง่ประโยชน์ทางเศรษฐกิจของผู้ใช้งานและยังช่วยลดภาระกับสิ่งแวดล้อมถือได้ว่ามีส่วนร่วมในการส่งเสริมเรื่องความยั่งยืนตามแนวทางสากลอีกด้วย
ลักษณะเด่นของเครื่อง ClohSei® และ AquaRiserTM
- กรดไฮโปคลอรัสของเรามีอัตราการคงอยู่ประมาณ 6-7 เท่าเทียบกับ “น้ำอิเล็กโทรไลต์” แบบทั่วไป
- เทคโนโลยีของเรามีความยืดหยุ่นปรับความเข้มข้นของสารฆ่าเชื้อได้ตั้งแต่ 1ppm จนถึงหลายร้อย ppm
- ทั้ง ClohSei® และ AquaRiserTM มีความเข้มข้นคงที่ต่างจากเทคโนโลยีอื่นๆ ความเข้มข้นของสารฆ่าเชื้อไม่แปรตามอัตราการไหลของน้ำที่เข้ามา
- เครื่องของเราผลิตกรดไฮโปคลอรัสทันทีที่มีการใช้งาน ไม่ได้ทำการผลิตเป็นแบตช์ ผู้ใช้งานสามารถใช้กรดไฮโปคลอรัสได้อย่างต่อเนื่องไม่จำเป็นต้องรอรอบการผลิตเมื่อสารหมด
- ไม่มีการใช้วัตถุดิบอันตราย
- ไม่มีสารพิษตกค้าง หรือไม่มีสารที่ไม่ต้องการผลิตพ่วงออกมา
- หลังจากฆ่าเชื้อโรค หรือสัมผัสกับสารอินทรีย์ กรดไฮโปคลอรัสจะสลายตัวกลับเป็นน้ำ ซึ่งกรดไฮโปคลอรัสของเราเมื่อสลายตัวแล้วจะมีปริมาณเกลือไม่เกิน 0.02%
- ไม่มีการสร้างก๊าซคลอรีนหรือเกิดการปนเปื้อนคลอเรต
- เทคโนโลยีฟื้นฟูอัตโนมัติของ ClohSei® ช่วยป้องกันการลดลงของความเข้มข้นของสารฆ่าเชื้อที่ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน ทำให้ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องถ่ายน้ำทิ้งและดึงวัตถุดิบมาผลิตใหม่ เนื่องจากตัวเครื่องจะตรวจจับการลดลงของความเข้มข้นสารฆ่าเชื้อแล้วเปิดระบบฟื้นฟูทำให้น้ำฆ่าเชื้อที่ประสิทธิภาพลดลงแล้วกลับมามีประสิทธิผลในการฆ่าเชื้อขึ้นมาได้
ประสิทธิผลในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา
กรดไฮโปคลอรัสเป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วว่าเป็นสารอ็อกซิแดนท์ในธรรมชาติที่ทรงพลังมากซึ่งสร้างขึ้นในระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมนุษย์ สารฆ่าเชื้อชนิดนี้สามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อราบางชนิด ยับยั้งเชื้อโดยทั่วไปได้ 99.99% โดยใช้เวลาสัมผัสเพื่อฆ่าเชื้อที่สั้นมาก เมื่อเปรียบเทียบกับโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (คลอรีนน้ำ) กรดไฮโปคลอรัสต้องการความเข้มข้น (ppm) น้อยกว่าแต่มีประสิทธิผลการฆ่าเชื้อที่ดีวก่า และยังไม่มีสารพิษตกค้างหลังใช้งานเหมือนกันการใช้คลอรีนน้ำทั่วไป ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องล้างน้ำออกต่างจากสารฆ่าเชื้ออื่นๆ
ตัวอย่างการใช้งานน้ำไฮโปคลอรัส
เราสามารถนำน้ำไฮโปคลอรัสมาใช้แทนคลอรีนน้ำ (โซเดียมไฮโปคลอไรท์) ได้ ทำให้สามารถประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย และเทคโนโลยี AquaRiser ของเรามีประวัติการใช้งานในประเทศญี่ปุ่นมานานกว่า 20 ปี
รองรับปริมาณการใช้งานที่หลากหลาย
AquaRiserTM รองรับความต้องการใช้งานในปริมาณมาก เช่น การใช้งานสารฆ่าเชื้อความเข้มข้น 30ppm เริ่มต้นที่ปริมาณ 33 ตันต่อวัน จนถึง 258 ตันต่อวัน เป็นต้น ด้วยอัตราการผลิตระดับนี้จึงสามารถล้างผัก เนื้อ หรือวัตถุดิบอาหารอื่นๆ ได้มากถึง 3,300 กิโลกรัมต่อวันโดยใช้เพียงเครื่อง AquaRiser ขนาดเล็กสุดเท่านั้น เครื่อง AquaRiser ขนาดใหญ่ที่สุดสามารถล้างวัตถุดิบอาหารได้มากถึง 25,800 กิโลกรัมต่อวัน เครื่องของเราจึงเหมาะสมกับการใช้งานในโรงงานแปรรูปอาหาร โรงพยาบาล หรือสถานที่ใช้งานขนาดใหญ่
ClohSei® รองรับการใช้งานสำหรับลูกค้ากลุ่มบ้าน ภัตตาคาร คลีนิคสัตว์ และผู้ใช้งานทั่วไป ซึ่งต้องการการใช้งานในปริมาณไม่เกิน 336 ลิตรต่อชั่วโมงที่ความเข้มข้นในช่วง 36-55ppm ปริมาณอัตราการไหลของน้ำขาเข้าที่รองรับอยู่ในช่วง 1.5 ถึง 5 ลิตรต่อนาที เราจึงขอแนะนำเครื่อง ClohSei® ถ้าอัตราการใช้งานไม่เกิน 2.7 ตันต่อวัน (36-55ppm) ซึ่งใช้ล้างวัตถุดิบอาหารได้สูงถึง 270 กิโลกรัมต่อวัน